Self respect
อัตตาหิ อัตตโน นาโถ
นัยหนึ่งก็คือ Self respect
เพราะเข้าใจความจริงที่ว่า
“การที่ตนเป็นอย่างไร แสดงออกมาอย่างไร มันขึ้นกับเหตุปัจจัยที่ปรุงแต่งมากมาย หามีตัวตนหรือความเป็นเราที่แท้จริงไม่” จึงเกิด Self respect
ซึ่ง Self respect นั้นมี 2 นัย
1. Self respect คือ การเคารพตน
หากมีข้อผิดพลาด หรือสิ่งไม่ดีเกิดขึ้น ก็มิได้เกลียดตัวเอง ท้อถอย หรือท้อแท้ พร้อมที่จะแก้ไขพัฒนา ปรับปรุง
หากเราดี ก็มิได้หลงตนดี ทะนงตน เย่อหยิ่ง
เพราะเข้าใจและมองเห็นว่า ความเป็นตนที่แท้จริงมันมิได้มีอยู่ มันเป็นเพียงกระแสเหตุปัจจัยที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น
หรืออีกนัยหนึ่ง
ตัวตนที่ปรากฏก็คือธรรมชาติแห่งเหตุปัจจัย หากเคารพตน มี Self respect จริง ก็คือเคารพกระแสเหตุปัจจัย
การหลงสร้างตัวตนอันใหม่ที่แยกต่างจากเหตุปัจจัย นั่นไม่ใช่เคารพตนที่แท้จริง ซึ่งคือความหลง
2. Self re-spect
คือ การตรวจสอบตน มองตน เรียนรู้ตน เพื่อแก้ไขปรับปรุงตน เพื่อพัฒนาให้ยิ่งขึ้นไป
เพราะรู้แจ้งชัดว่า ความเป็นตนนั้น มันคือกระแสเหตุปัจจัย
เมื่อเหตุปัจจัยเสื่อมมันยังมี เราถึงได้อ่อนแอ และแสดงออกมาไม่ดี หากเราแก้ไขปรับปรุง ละสิ่งเสื่อมทั้งหลายนั้นเสีย การแสดงออกเช่นนั้นก็จะเปลี่ยนไป
แม้เราจะดีตอนนี้ มันก็เป็นผลของเหตุปัจจัย หากเราเกียจคร้านประมาทนอนใจ นั่นก็เป็นเหตุปัจจัยแห่งความเสื่อมทั้งหลายที่จะเกิดขึ้น
ดังนั้น เราจึงต้องขยันหมั่นเพียรละสิ่งเสื่อม เจริญสิ่งดีให้ยิ่งขึ้นไปอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาตนให้สามารถไปสู่ความหลุดพ้นอันสูงสุดที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นต่อไป
ความมีความเป็นอย่างไรของตนในปัจจุบัน ล้วนเกิดจากเหตุปัจจัยที่ตนได้สร้างสมไว้ในอดีต
หากเราต้องการที่จะเป็นอย่างไรในอนาคต ก็ให้สร้างเหตุปัจจัยเพื่อสิ่งนั้นให้มากในปัจจุบัน
มันไม่มีตัวตนที่แท้จริงอันใดของใคร มันเป็นเพียงกระแสเหตุปัจจัยที่ไหลเวียน
หากเราเห็นแจ้งเช่นนี้ เราก็จะไม่หลงยึดมั่นตน แต่เคารพในความเป็นตนที่แท้จริงอันคือกระแสเหตุปัจจัย เกิด Self respect และเมื่อนั้น ตนก็จะเป็นที่พึ่งของตน เป็น อัตตา หิ อัตตโน นาโถ ได้อย่างแท้จริง