อย่าเพ้อเจ้อ!

อย่าเพ้อเจ้อ!

เข้าใจให้ถูกนะว่าเป้าหมายของพระพุทธองค์คืออะไร
มันไม่ใช่อะไรที่วิเศษวิโสห่างไกลความจริง แบบที่คนสมัยนี้จินตนาการกัน

คนสมัยนี้มันชอบจินตนาการว่า
นิพพาน มันต้องวิเศษอย่างนั้นอย่างนี้
เป็นอะไรสักอย่างที่แยกต่างออกไปจากสังสารวัฏอย่างสิ้นเชิง

หารู้เลยไม่ว่า
นิพพานก็คือสังสารวัฏ สังสารวัฏก็คือนิพพาน
นิพพานท่ามกลางสังสารวัฏ สังสารวัฏท่ามกลางนิพพาน

แล้วมันมีความหมายอย่างไรเล่า?
มันก็หมายถึง
ความเป็นธรรมดาๆ เดิมๆ ที่ไม่ได้ถูกเติมแต่งด้วยความหลง
ของธรรมชาติอันสมบูรณ์ยิ่ง ที่มีอยู่แล้วดั้งเดิม นี่ล่ะ

พุทธะก็มิได้แตกต่างจากสรรพสัตว์
ทั้งสองล้วนมีธรรมชาติอันเป็นรากฐานเดียวกัน
เพียงแต่ผู้หนึ่งรู้แจ้ง อีกผู้หนึ่งมืดบอด ต่อธรรมชาตินั้น เท่านั้น

ดังนั้นบนเส้นทางการพัฒนาไปสู่พุทธะภาวะ (หรือการสร้างสมบารมีทั้ง6/10) นั้น
ที่สุดแล้ว ก็เพื่อให้คนธรรมดาสามัญกลายเป็นผู้ที่มีสมรรถณะสูงสุด ที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์
ไม่ใช่พัฒนาไปเพื่อลาภ ยศ สรรเสริญ ความดีงาม หรือความเก่งกาจ วิเศษวิโสของตน

อย่าได้จินตนาการเพ้อเจ้อ ว่านิพพานมันจะอลังการ หวือหวา วิเศษพิสดาร หลุดโลกแห่งความเป็นจริง

นิพพานมันคือ ความเป็นจริง เป็นสิ่งธรรมดาๆ ที่มีอยู่แล้ว แต่เดิม ในทุกๆขณะ

เพียงแต่ผู้หลง ไม่อาจตื่นแจ้งต่อมัน
ส่วนผู้รู้ท่านตื่นแจ้ง และดำรงอยู่ในมัน อย่างสอดคล้องกลมกลืน เป็นหนึ่งเดียว

และด้วยรากฐานนี้ล่ะ
ผู้ที่ตื่นแจ้ง จึงสามารถทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นได้อย่างสูงสุด ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น

Comments are closed.