ถาม-ตอบ
ถาม:
ช่วงที่ยกตัวอย่างเรื่องตลิ่งกับสายน้ำ
การแยกจิตออกจากความคิดต่างๆ.. เพื่อรู้รูป.. เจตสิก.. จิต.. เป็นวิปัสสนา
คือรู้รูปนามใช่มั้ยคะ
ตอบ:
การถอยขึ้นมานั่งบนตลิ่งแล้วดูกระแสที่ไหล โดยไม่ปล่อยใจให้จมไปกับกระแสน้ำนั้น
เป็นได้ตั้งแต่สมถะไปจนถึงวิปัสสนา
หากเราอยู่บนตลิ่ง ไม่ยอมตกลงไป เพราะรู้ว่านั่นมันกระแสน้ำ มันก็ยังเป็นแค่สมถะที่เพียงรู้จักสภาวะแล้วไม่ปล่อยใจไปตามสภาวะการปรุงแต่งนั้น
แต่หากเรานั่งบนตลิ่ง แล้วเห็นสภาวะนั้นตามเป็นจริง ตั้งแต่เห็นความไม่เที่ยงเป็นต้น นั่นก็เริ่มวิปัสสนา แต่เป็นแบบอ่อนๆ
หากเราเห็นพร้อมว่าสภาวะที่ปรากฏ คือรูปนาม->รูป เจตสิก จิต->ขันธ์ห้า ตามลำดับความแยบคาย หาความเป็นตัวตนไม่ได้ เป็นเพียงมายา นี่ก็เป็นวิปัสสนาชั้นสูงขึ้นตามลำดับที่เห็น
แต่หากจิตรู้แจ้งหลุดพ้นแล้ว(คือผ่านวิปัสสนามาจนสมบูรณ์และคล่องตัว) ก็จะเห็นว่า มันก็เป็นเพียงแค่สมมุติว่าสภาวะนั้นสภาวะนี้เท่านั้นเอง จิตไม่ไปไหนไม่มีตลิ่งให้อยู่ ไม่มีกระแสให้ไหล