Browsed by
Tag: การปล่อยวาง

ธรรมะวันนี้

ธรรมะวันนี้

ศีลวินัย กฏระเบียบ ข้อตกลง สิ่งดีๆทั้งหลายที่สังคมได้กำหนดกันไว้นั้น เป็นสิ่งที่ดีงาม ทำให้สังคมอยู่อย่างเป็นสุข เกิดประโยชน์สูงสุด แต่เราก็ต้องมีหลักในการใช้มันดังนี้

  1. ใช้ดูตัวเรา บังคับตัวเรา ควบคุมตัวเรา ฝึกตัวเรา ไม่ใช่ผู้อื่น
  2. เมื่อเราทำได้ ก็อย่าหลงว่าเราดี หรือแตกต่างจากผู้อื่น เพราะมันจะเป็นช่องให้มารคือ มานะ เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นเหตุแห่งทุกข์ต่อไปอีกมากมาย
  3. ในทุกสังคมย่อมมีทั้งคนที่ดีและไม่ดี หน้าที่ของเราคือทำความดีตามหน้าที่ของตน เราไม่มีหน้าที่ไปเปลี่ยนใคร มันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากมาก
  4. แม้สังคมจะมีทั้งคนรักษากฏและคนไม่รักษากฏ ซึ่งพวกหลังย่อมก่อให้เกิดความวุ่นวายกับสังคมมากมาย และมักจะมีจำนวนไม่น้อยเสียด้วย แต่ความรักความสามัคคีเป็นกุศลที่สำคัญยิ่งกว่า และมีคุณกว่าความโกรธและเกลียดชังมากมายนัก
  5. การแสดงออกของคน ในการไม่รักษากฏ ย่อมมีเหตุปัจจัยที่แตกต่างกัน เราไม่อาจรู้หรือเข้าใจใครได้แท้จริงหรอก
  6. และแม้เขาจะขาดความรับผิดชอบจริงๆ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่เราจะไปหงุดหงิดในความไม่ดีของคนอื่น ในเมื่อมีกรรมสัมพันธ์กันมาก็ต้องฝึกต่อไปว่า เราจะวางได้หรือเปล่า เพราะอย่าลืมสิว่า ทั้งหมดมันคือ ความคิดปรุงแต่งของเราเองทั้งสิ้น

ดังนั้น จงใช้สิ่งดีๆให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดีกว่าเอามันมาสร้างทุกข์ให้กับตน

หากเรา deal ให้ดี มันก็มีแต่คุณ

 

เจริญธรรม

อาจารย์หมอ… อ่านต่อ

ความทุกข์บนความสัมพันธ์

ความทุกข์บนความสัมพันธ์

การที่ผู้อื่นไม่เป็นดังใจเรา หรือไม่เป็นดังที่เราคิด ซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เราทุกข์อยู่เป็นประจำนั้น มันกลับแสดงสัจธรรมให้เราเห็นสองอย่างคือ

  1. ไม่ว่าเค้าจะเป็นใคร สัมพันธ์กับเราอย่างไร เราไม่มีอำนาจอะไรที่จะไปบงการเขา ให้เขาเป็นเช่นนั้นเช่นนี้หรอก ไม่มีใคร เป็นอะไร ของใครจริงๆ ตัวเราเองยังไม่ใช่ของเราเลย
  2. ความคิดของเรา กับความเป็นของเขา มันมักจะห่างกันไกล อย่าได้หลงเลยว่าที่เราเข้าใจใคร หรือคิดว่าใครเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะเหตุนั้นเหตุนี้ มันจะถูกตรงตามนั้น

มันไม่แน่เสมอไปหรอก โอกาสผิดมากกว่าครึ่ง

เราไม่มีเจโตอย่างที่เราหลงหรอก

จงปล่อยวางความคิด ความคาดหวัง และความคาดเดา หรือเจโตปลอมๆ ของเราเสีย

หัดเปิดใจ ยอมรับ ให้โอกาส ให้อิสรภาพ ที่ใครจะเป็นอะไรในแบบของเขา โดยเราไม่ต้องไปก้าวก่าย แม้กระทั่งทางความคิด

หากเรามีหน้าที่ที่จะต้องแนะนำ ก็ให้ทำด้วยความรักความเมตตา ความปรารถนาดี

แต่ต้องตระหนักไว้เสมอว่า เราเป็นเพียงเหตุปัจจัยเล็กๆของเขาเท่านั้น อย่าได้สร้างตัวตนของตนให้มันใหญ่โตเลย เราจะทุกข์ฟรีเปล่าๆ และอาจสร้างกรรมแถมเข้าไปอีกด้วย เพราะโทสะ

ทำไมล่ะคนอื่นถึงไม่เป็นดังที่เราคิด

มันก็เพราะ เราไม่คิดดังที่เขาเป็น

แล้วทำไมล่ะ ความคิด ความเข้าใจของเราที่มีต่อผู้อื่น มันมักจะไม่ค่อยถูกตรงตามที่เขาเป็น

มันก็เพราะ ที่เราคิดนั้นมันมาจากตัวเรา ไม่ใช่ตัวเขา มันมาจากการรับรู้ การตีค่าความหมายของเราเอง

เรียกว่า การรับรู้ของเรามันไม่บริสุทธิ์

การรับรู้ของเรามันถูกบดบัง ถูกแทรกแซงด้วยทิฐิที่ผิดเพี้ยน
ด้วยอารมณ์
ด้วยอัตตาตัวตนของเรา
ด้วยความคิดที่เรายึดติด
และด้วยความโลภ โกรธ หลง ที่เรามี
มันจึงทำให้จิตใจเราคับแคบ ไม่เปิดกว้าง
มากมายด้วยเงื่อนไข
มากมายด้วยกรอบและอดีตสัญญาของตัวเอง

ดังนั้น มันจึงปักใจเชื่ออะไรไม่ได้

เพราะหากเราหลงปักใจเชื่อ นั่น! มันเป็นเหตุนำแห่งความทุกข์ที่จะเกิดแก่ตัวเราเองเท่านั้น และมันมักจะเลยไปก่อเวรสร้างกรรมอยู่บ่อยๆ

ดังนั้น การที่เราจะเห็นโลกตามเป็นจริงได้ เราก็ต้องฝึกให้การรับรู้ของเรา คืนสู่ความบริสุทธิ์ดั้งเดิม

คือไม่ปล่อยให้สิ่งมัวหมองทั้งหลายนั้นมาบดบังการรับรู้ของเรา

เรียกง่ายๆ ว่า เอาความคิดของเราไว้ข้างหลัง อย่าให้มันมาบังความเป็นจริง

ซึ่งก็ต้องเริ่มที่ หัดเปิดใจ ยอมรับ ทุกๆสิ่ง ทุกๆคน ในการที่เขาจะเป็นในแบบของเขา

อดทนที่จะเรียนรู้ สังเกต ด้วยใจที่เปิดกว้าง ยอมรับในทุกสิ่งๆทุกๆสถานการณ์

แล้วเราจะค่อยๆอิสระจากการปรุงแต่งของเราเอง

มันมีความจริงอย่างหนึ่งที่พวกเราไม่เข้าใจและมองข้ามอยู่เสมอ คือ

เมื่อเรารู้จักเปิดใจกว้าง และให้โอกาสทุกๆสิ่ง ทุกๆคน ที่จะเป็นอย่างไรก็ได้ ตามเหตุปัจจัยของเขา

ชีวิตเราเองกลับจะเป็นอิสระ ไม่คับแคบ และไม่ถูกพันธนาการ ซึ่งมันเป็นปากทางแห่งความหลุดพ้น

เพราะความหลุดพ้นที่แท้จริง มันคือความหลุดพ้นจากการปรุงแต่งของเราเองเท่านั้น

 

เจริญธรรม

อาจารย์หมอ… อ่านต่อ