ชีวิตคือกระแสเหตุปัจจัย

ชีวิตคือกระแสเหตุปัจจัย

มนุษย์หลงเข้าไปหมายมั่นในปรากฏการณ์แห่งเหตุปัจจัยนั้น แล้วให้ความหมายให้คุณค่าแก่มัน บนพื้นฐานแห่งความหลงเดิมๆของตน

เมื่อหลงหมายมั่นก็ยึดมั่นถือมั่นมันว่าเป็นจริงๆ เช่นนั้น สร้างกรอบแห่งอัตตาตัวตนอันแข็งกร้าวขึ้น
และหากยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น ก็ปรุงแต่งต่อเติมด้วยสัญญาความหลงเดิมๆสร้างความยึดมั่นอันรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆจนกลายเป็นทิฐิมานะ สร้างตัวกูอันใหญ่โตขึ้น

เมื่อเป็นเช่นนั้น ตนก็จะถูกขังไว้ในโลกอันคับแคบและบอบบางที่ตนได้หลงสร้างขึ้นเอง
กระแสเหตุปัจจัยถูกกลบเกลื่อน เหลือแต่สิ่งเดี่ยวๆที่จริงแท้ และกรอบแห่งตัวตนอันแข็งกร้าวมากมาย

ด่วนสรุป ยึดมั่นถือมั่นในความคิดตน ไม่เปิดใจ คับแคบ ขาดเหตุขาดผล แบ่งเขาแบ่งเรา นี่คืออาการที่แสดงออกของมัน

แล้วสิ่งเหล่านี้ก็เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตของคนนั้นต่อไป

ชีวิตที่เคยเป็นความสงบเรียบง่ายแห่งกระแสเหตุปัจจัย โปร่งเบา อิสระ เลยกลับกลายเป็นทุกข์ บีบคั้น อึดอัด และหวั่นไหวง่าย
โอ้อนิจจา!

จงสลายกรอบแห่งอัตตาตัวตนทั้งหลายออกเสีย และดำรงอยู่ด้วยความรักความเมตตาเถิด

ใครเล่าจะคงอยู่ในความหลงเช่นนั้นได้ โดยปราศจากทุกข์

Comments are closed.