หนทางรับมือวิกฤตการณ์

หนทางรับมือวิกฤตการณ์

พวกเราหลายคนคงจะเครียดและหวาดวิตกกับเหตุการณ์ไวรัสที่กำลังลุกลามอยู่
บางคนอาจเมินเฉยไม่ยอมรับรู้ข่าวสารเพื่อจะได้ไม่เครียด ซึ่งก็อาจจะสบายใจได้ชั่วคราว
บางคนอาจอดใจไม่ได้ที่จะรับข่าวสารต่างๆ มากมาย แล้วก็เอาปรุงแต่งให้เครียดและหวาดวิตกตาม

เมื่อเจอวิกฤตการณ์เช่นนี้ เราในฐานะนักปฏิบัติจะปฏิบัติอย่างไร?

พระพุทธองค์ได้มอบสมบัติอันล้ำค่าไว้ให้แก่พวกเรา ที่เราจะนำมาใช้ในการเผชิญกับวิกฤตการณ์ทั้งปวงแล้วดังนี้

1. สัพพปาปะสะ อะกะระณัง ละสิ่งอันเป็นทางเสื่อมทั้งปวง
เราจึงควรศึกษาหาความรู้ ย้อนกลับมาดูตนเอง ดูการดำเนินชีวิตของตนว่า ยังมีจุดไหนบ้าง ที่จะเป็นจุดเสื่อม เป็นการเปิดรับให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ตน หรือเพิ่มโอกาสให้เราเจ็บป่วยได้ จากผู้รู้ทั้งหลาย แล้วนำมาปฏิบัติตน ปรับปรุงตน แก้ไขตน อย่างเคร่งครัด

2. กุสสะระ สูปะ สัมปะทา เจริญสิ่งที่เป็นทางเจริญให้ยิ่งขึ้น
ในทางตรงข้าม เราควรเร่งใส่ใจกระทำ ในสิ่งที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็ง และภูมิคุ้มกันให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นปราการอันแข็งแกร่ง ยามที่ต้องเจอสถาณการณ์ที่ร้ายแรงกว่านี้

3. สะจิตตะ ปะริโยทะ ปะนัง ทำจิตใจให้ผ่องใส
การเผชิญกับวิกฤตการณ์ทั้งหลายนั้น เราสามารถใช้โอกาสแห่งวิกฤตที่เกิดขึ้น ปรับเปลี่ยนมันให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองได้อย่างมาก ซึ่งมันจะทำให้บารมีของเราแก่กล้าขึ้นเป็นเท่าทวี

ซึ่งนี่ล่ะ คือความหมายและคุณค่าที่แท้จริงของการปฏิบัติภาวนา

ดังนั้น จงตั้งทัศนคติให้ดีเสียก่อน ใช้สถาณการณ์อันวิกฤตนี้เป็นโอกาสที่จะเรียนรู้ ปรับเปลี่ยน และฝึกตนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ซึ่งในที่นี้จะขอกล่าววิธีง่ายๆ ไว้ 3 วิธี ดังนี้

3.1 เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสในการเจริญสติให้เข้มแข็ง

เมื่อเราได้รับรู้เรื่องราวข่าวสาร จงรับรู้ด้วยสติ รักษาสติให้อยู่กับลมหายใจไว้ สังเกตอาการเปลี่ยนแปลงของลมที่เกิดขึ้น สังเกตความพอใจไม่พอใจที่เกิดขึ้น อย่าปล่อยใจให้คิดปรุงแต่งไปต่างๆ นานา

รักษาความสงบของใจไว้ หากหวั่นไหวรุนแรงให้เกาะลมหายใจให้แน่น แต่หากไม่รุนแรง ก็เพียงแค่รู้ลมสบายๆ พร้อมกับ สังเกตใจของตน และปล่อยวางมัน

3.2 ปรับเปลี่ยนความเครียด หรือความหวาดหวั่นนั้น ให้เป็นเมตตาเพื่อเสริมสร้างโพธิจิต

หากเราเกิดความเครียดหรือหวาดวิตก ไปตามข่าวนั้น ให้นึกกับตัวเองด้วยความจริงใจว่า

“ด้วยความหวาดวิตก และความเครียดที่เกิดขึ้นในตัวข้าขณะนี้ ข้าขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียว เพื่อให้เพื่อนมนุษย์ทั้งปวง ผู้ล้วนเคยเป็นพ่อแม่ของข้ามาแล้วทั้งสิ้น ผู้กำลังหวาดกลัวและเครียดอยู่ในปัจจุบัน จงหมดสิ้นซึ่งความเครียดและความหวาดหวั่นนั้น

สิ่งใดที่เป็นความทุกข์ของท่านเหล่านั้น ขอให้มาสุกงอมอยู่ในตัวข้า บุญบารมีใดที่ข้าได้กระทำ ให้จงช่วยให้ท่านเหล่านั้นพ้นจากทุกข์และวิกฤตการณ์ครั้งนี้”

3.3 ปรับเปลี่ยนวิกฤตการณ์ให้เป็นปัญญา

จงใช้โอกาสที่ได้เผชิญความจริงแท้ของชีวิตนี้ พิจารณาให้เห็นว่า

ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต

ชีวิตมีขึ้นมีลง มีสุขแล้วก็มีทุกข์ มีได้ก็มีเสีย หาแก่นสารสาระอะไรไม่ได้ ชีวิตเราขึ้นอยู่กับกระแสเหตุปัจจัยมากมาย ซึ่งมันนอกเหนืออำนาจของเราที่จะควบคุมได้หมด

ชีวิตเป็นเพียงปรากฏการณ์ของกระแสเหตุปัจจัยอันยิ่งใหญ่ ว่างเปล่าจากความเป็นตัวเราของเรา สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือ การยอมรับและสอดคล้องกับความจริงตามธรรมชาติ และใช้ชีวิตนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้อื่นให้มากที่สุด

จงกระทำเช่นนี้ให้บ่อยๆ และเป็นประจำ แล้วจิตใจของท่านจะผ่องใสท่ามกลางวิกฤติการณ์ครั้งนี้

เมื่อท่านสามารถดำเนินเช่นนี้ ท่านจะเกิดพลังทั้งภายในและภายนอกที่พร้อมจะรับมือกับวิกฤตการณ์ทั้งปวงที่จะเกิดขึ้น

ขอมงคลทั้งปวงจงมีแด่ทุกท่าน
อจ.หมอ

Comments are closed.