การใช้สภาวะเพื่อการปฏิบัติ

การใช้สภาวะเพื่อการปฏิบัติ

การใช้สภาวะเพื่อการปฏิบัติ

ในการปฏิบัติ เธอจงตระหนักไว้เสมอว่า
ไม่ว่าสภาวะใด ๆ ก็ล้วนคือรูปนาม ซึ่งเป็นเพียงมายาของจิตเท่านั้น มันหาตัวตนที่แท้จริงใด ๆ มิได้

ดังนั้นไม่ว่าสภาวะใด ๆ จะปรากฏขึ้น จงอย่าได้ประหลาดใจ สงสัย ตื่นเต้น หรือขัดเคืองกับมัน
แต่ให้ย้อนกลับมาดูใจของเธอให้ดีว่า เธอกำลังหลงพอใจ หรือไม่พอใจมันหรือเปล่า

เมื่อจิตเธอสามารถสงบไม่หวั่นไหวท่ามกลางสภาวะนั้นได้
จงมองให้เห็นเถิดว่า
มันเป็นเพียงปรากฏการณ์ของเหตุปัจจัยอย่างไร
มันเป็นเพียงมายาของจิตอย่างไร
และจิตนั้นก็เป็นสิ่งที่ว่างเปล่าจากตัวตนที่แท้จริงอย่างไร

หากเธอสามารถเห็นแจ้งได้เช่นนี้
จงจดจำมันไว้ให้ดี และนำประสบการณ์นั้นไปใช้ยามเมื่อต้องกระทบกับอารมณ์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะในระหว่างช่วง Intensive หรือในชีวิตประจำวัน

เธอจำต้องตระหนักรู้ให้เท่าทันการปรุงแต่งทั้งหลายที่จิตสร้างขึ้น ว่า
มันเป็นเพียงมายาแห่งการปรุงแต่งของจิต และจิตเองนั้นก็ว่างเปล่าจากความเป็นตัวตนที่แท้จริง ตามกำลังที่เธอได้เคยมีประสบการณ์ตรงในการเห็นแจ้งนั้นมาแล้ว
แล้วย้อนกลับมาสังเกตจิตของเธออีกทีหนึ่ง เพื่อดูว่า มันหวั่นไหวไปกับการปรุงแต่งนั้นหรือไม่ หรือว่าคงสงบเย็นอยู่ด้วยความตื่นรู้

แต่หากจิตมันยังหวั่นไหวอยู่ เธอจำต้องพิจารณาอีกว่า
ทำไม เรายังยึดอะไร ถึงทำให้จิตยังเกิดความหวั่นไหวเช่นนี้
และสิ่งที่เรายึดนั้น มันยึดไม่ได้อย่างไร มันไร้สาระอย่างไร
เพื่อเป็นทุนแห่งปัญญา เพื่อช่วยลดความยึดติดของเราต่อไป

แต่หากจิตสามารถคงความสงบไว้ได้ ก็ให้สังเกตความเป็นจริงของอารมณ์นั้น ด้วยธรรมที่เธอเคยมีประสบการณ์มา ซ้ำไปอีกทีหนึ่ง

ทำเช่นนี้ซ้ำไปเรื่อย ๆ กับทุกสภาวะที่ปรากฏ
แล้วจิตจะขยายปัญญาแห่งความรู้แจ้งออกไป ๆ ครอบคลุม และตัดขาดความยึดติดในสภาวะทั้งปวงได้ในที่สุด

Comments are closed.