คุณธรรมสองประการ

คุณธรรมสองประการ

บนการหลุดพ้น มันต้องเกิดจากคุณธรรมสองสิ่งประสานกัน คือ
สติรู้แยกแยะได้ และปัญญาแจ้งชัดตามความเป็นจริง
เมื่อปรากฏการณ์ใดปรากฏการณ์หนึ่งปรากฏต่อการรับรู้ในปัจจุบันขณะ
หากเราไม่มีสติรู้เท่าทันปรากฏการณ์นั้น
เราก็จะหลงปรุงต่อปรากฏการณ์นั้น จนเกิดความหมายและคุณค่ามากมาย และหลงยึดมั่นถือมั่นมันในที่สุด

แม้หากเรารู้เท่าทันว่าอะไรกำลังปรากฏ แต่เราไม่รู้แจ้งในความเป็นจริงของมัน
เราก็จะหลงปรุงต่อปรากฏการณ์นั้น และยึดมั่นถือมั่นมันในที่สุด อีกเช่นกัน

ดังนั้น ไม่ใช่แต่เพียง เราต้องฝึกตนให้มีสติรู้เท่าทันสภาวะที่กำลังปรากฏเท่านั้น
เรายังจำเป็นต้องพัฒนาปัญญาให้เกิดความรู้แจ้งชัดสภาวะนั้นตามความเป็นจริง ทั้งสมมุติและปรมัตถ์

หากคุณธรรมทั้งสองไม่ประสานสมดุลกัน
ความรู้แจ้งหลุดพ้นย่อมไม่อาจบังเกิดขึ้น

การขาดสติไม่รู้เท่าทัน ถือเป็นความประมาท

การเอาแค่สติรู้เท่าทันสภาวะ โดยไม่พัฒนาปัญญา ก็ยังเป็นความประมาทอยู่

การมีทั้งสติและปัญญารู้เท่าทันและเข้าใจปรากฏการณ์นั้นตามเป็นจริง แต่นอนใจอยู่เช่นนั้น โดยยังไม่แจ้งถึงวิมุติภาวะของจิต ก็ยังถือว่าประมาทอยู่อีกเช่นกัน

ดังนั้น จนกว่าจะถึงพร้อมทั้ง สติรู้เท่าทันสภาวะ
ปัญญาแจ้งชัดตามเป็นจริง
และรู้แจ้งในวิมุติภาวะที่มีอยู่แล้วในขณะนั้น
เธอจะประมาทนอนใจมิได้เลย

จงเจริญมรรคมีองค์แปดให้ถูกต้องและทำให้มากๆ ใฝ่เรียนรู้มันไปจวบจนวันตาย

มิใช่เจริญมักง่าย จะเอาแต่สั้นๆ ได้ผลเร็วๆ แบบที่เป็นๆกันอยู่

หากประมาทนอนใจเช่นนั้น สังสารวัฏ มันจะไม่มีวันหดสั้นลงเลย สำหรับเธอ มีแต่จะยืดยาวๆ

Comments are closed.