ปฏิจจสมุปบาท

ปฏิจจสมุปบาท

ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้นเห็นธรรม

ปฏิจจสมุปบาท แปลว่า เพราะมีสิ่งนี้ๆ จึงมีสิ่งนี้ เพราะสิ่งนี้ๆดับ สิ่งนี้จึงดับ

แล้วเช่นนั้น การเห็นปฏิจจสมุปบาท คืออะไร ?

การเห็นปฏิจจสมุปบาท อธิบายง่ายๆ คือ

การเห็นแจ้งในความจริงของปรากฏการณ์ทั้งปวงว่า มันปรากฏขึ้นเพราะกระแสแห่งเหตุและปัจจัยอย่างนี้ๆ และดับไปเพราะเหตุอย่างนี้ๆ จนเกิดความแจ้งชัดว่า ปรากฏการณ์ทั้งหลายนั้นล้วนว่างเปล่าจากตัวตนที่แท้จริง มันเป็นเพียงกลุ่มก้อนของการอิงอาศัยกันของเหตุปัจจัยอันหลากหลาย หามีตัวตนใดๆไม่

แล้วการจะเห็นแจ้งเช่นนั้นได้ จะต้องทำอย่างไร ?

การจะเห็นแจ้งเช่นนั้นได้ ต้องแยกพัฒนา 2 ข้าง ไปพร้อมๆกัน คือ

  1. พัฒนาสติให้มีความแยบคาย ที่ละเอียดลงไปเรื่อยๆ จนสามารถเห็นแจ้งในเหตุปัจจัยทั้งมวลของทุกๆปรากฏการณ์
  2. พัฒนาปัญญาให้เข้าใจแจ้งชัดให้ได้ในความจริงที่ว่า สัพเพ สังขารา อนัตตา(สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยปรุงแต่ง สิ่งนั้นว่างเปล่าจากตัวตนที่แท้จริง)

ผลคือ เมื่อมีสติปัญญาพร้อมเช่นนี้ เราจะเห็นและรู้เท่าทันปรากฏการณ์ทั้งปวง รู้เท่าทันเหตุแห่งการเกิด รู้เท่าทันเหตุแห่งการดับไป และแจ้งชัดในความเป็นมายาของมันในขณะที่กำลังปรากฏ
การมองโลกจึงเปลี่ยนไป

ชาวโลกเห็นอะไรๆเป็นตัวตน เป็นเอกเทศ เป็นสิ่งแยกต่าง เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ตั้งอยู่ เป็นสิ่งที่ดับไป
แต่ผู้เห็นธรรมจะเห็นอะไรๆเป็นแค่ ปรากฏการณ์อันเป็นมายาของกระแสเหตุปัจจัย ที่มิได้มีการเกิดขึ้น มิได้มีการตั้งอยู่ หรือมิได้หายไป แม้กระแสแห่งเหตุปัจจัยนั้นเองก็เป็นมายาเช่นกัน

บนสมมุติทั้งหลายก็คือมายา ปรากฏแต่ว่างเปล่า ว่างเปล่าแต่ปรากฏ

ท่านจึงสามารถเลือกที่จะจัดการกับมันให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้โดยมิได้ยึดติดมัน

แล้วปรากฏการณ์นั้นหมายถึงอะไร ?

ก็หมายถึง ทุกๆอย่างจากหยาบๆภายนอกอันไม่มีสิ้นสุด จนถึงละเอียดสุดภายในถึงจิต

ปัญญาญาณอันเห็นแจ้งได้เช่นนี้เรียกว่า อนาวรญาณ อันเป็นที่สุดแห่งการพัฒนาของทุกๆสรรพชีวิต

Comments are closed.