มูลเหตุแห่งการเกิด

มูลเหตุแห่งการเกิด

พวกเธอทั้งหลาย จงขยันและหมั่นเรียนรู้สังเกตจิตของเธอเองให้ดีๆ เถิด
จิตนั่นล่ะ เป็นมูลเหตุแห่งการเกิดทั้งปวง
เมื่อจิตเกิด ทุกสิ่งก็เกิด
เมื่อจิตไร้การเกิด ทุกสิ่งก็คืนสู่ธรรมชาติดั้งเดิมของมัน

แล้วจิตมันเกิดได้ด้วยอาการอย่างไรเล่า?

เธอจงเฝ้าสังเกตจิตของเธอเองให้ดี ดังนี้

ยามเมื่อมันทะยานไปเพื่อจะรับเอาสิ่งที่มันรับรู้นั้นมาไว้ หนึ่ง
ยามเมื่อมันทะยานไปเพื่อจะผลักไส สิ่งที่รับรู้นั้นออกไป หนึ่ง
และยามเมื่อมันจดจมอยู่กับสิ่งที่มันรับรู้นั้น อีกหนึ่ง

ทั้งหมดจะนำไปซึ่งอาการอันเป็นมูลเหตุแห่งการเกิด
นั่นคือ ความยึดมั่นถือมั่น

แล้วทำไมจิตถึงมีพฤติกรรมเช่นนั้น
มันก็เป็นเพราะขณะที่มันรับรู้นั้น มันประกอบด้วยความความไม่รู้
ความไม่รู้เท่าทันสภาพนั้นๆ ตามความเป็นจริง

พวกเธอจงจำไว้ให้ดีว่า
อกุศลนั้นมีอำนาจแก่กล้ามาก
หากเธอปล่อยให้มันเจริญงอกงาม
กุศลทั้งหลายที่เธอสร้างสมมา จะถูกบดบังหายไปหมด
ไม่ว่าความดีใดๆ ที่เธอได้ทำไว้
มันสามารถแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งไม่ดี และทำให้เธอทุกข์ได้ ในชั่วพริบตา

ธรรมคู่ทั้งหลายนั้นล้วนมีสองด้านเสมอ
และสองด้านนั้นก็อยู่ด้วยกัน สลับปรับเปลี่ยนกัน
มันมีทั้งคุณและโทษ
แต่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่คุณหรือโทษ
มันก็เป็นเพียงสมมุติที่จิตปรุงแต่งขึ้นเองเท่านั้น
หากมันประกอบด้วยความยึดมั่นถือมั่น
ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี คุณหรือโทษ
มันก็จะทำให้เธอเวียนกลับมาเกิดแล้วเกิดอีก และทุกข์ได้ทั้งสิ้น

ดังนั้น จงอย่าได้ประมาท หลงในการปรุงแต่งของจิตเลย
มันเป็นเพียงผลพวงของการรับรู้อันโง่เขลาของเธอเองทั้งสิ้น
หากเธอยังไม่สามารถรู้เท่าทันและละวางความยึดมั่นถือมั่นของเธอได้
นรกก็ยังคงคอยเปิดรับเธออยู่ตลอดเวลา

 

เจริญธรรม

อาจารย์หมอ

Comments are closed.