ขยันทำให้ตนเองทุกข์

ขยันทำให้ตนเองทุกข์

มนุษย์เราชอบฝันในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ 3 สิ่ง จึงทำให้ตัวเองเป็นทุกข์อยู่เป็นประจำ ซึ่ง 3 สิ่งนั้นคือ

  1. เราชอบหลงคิดว่าเราเข้าใจคนอื่น
  2. เราชอบหวังให้ผู้อื่นเข้าใจเรา
  3. เราชอบหลงว่าเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้

แทนที่จะทำให้ตัวเองทุกข์เช่นนั้น เราควรจะทำในสิ่งตรงข้ามคือ

  1. จงศึกษา ทำความเข้าใจตนดีกว่า
  2. อย่าได้หวังให้ใครเข้าใจเราเลย เราเองยังเข้าใจตัวเราไม่ดีพอเลย
  3. จงคิดที่จะเปลี่ยนตัวเองดีกว่าที่จะไปเปลี่ยนคนอื่น

แล้วชีวิตเราจะมีความสุขขึ้น

ขณะที่รู้อยู่นี่ล่ะ สมบูรณ์ที่สุดแล้ว
รูป เจตสิก จิต ปรากฎ ไม่ต้องปรุงแต่งต่อเติมอะไรลงไปอีก
ปล่อยให้มันปรากฎแล้วก็ผันแปรไป
แค่เพียงรู้เท่าทัน ก็เท่านั้นเอง
แล้ว พระกาย วาจา ใจ อันบริสุทธิ์ของพระบรมครู จะเป็นหนึ่งเดียวกับเรา

ขยันพากเพียรกันให้ได้นะ

แล้วอะไรล่ะ ที่ผลักดันให้เราไม่รู้เท่าทันปัจจุบัน จนหลงปรุงแต่งกันมากมาย

ก็ความหลงยึดติดในโลกธรรมทั้งหลายนั่นล่ะ

ดังนั้นจงหมั่นพิจารณาให้มากจนจิตมันยอมรับในความไร้สาระของโลกธรรม จนมันเกิดความเบื่อหน่ายคลายความทะยานอยากลง และหมั่นเจริญสติรู้ตัวอยู่เสมอ

เมื่อไม่มีอะไรมากระตุ้น เผารน หรือยั่วยวนอยู่ภายใน สติปัญญาก็จะค่อยคืนสู่ธรรมชาติเดิมของมันเอง

แล้วความยึดติดในโลกธรรมมันแสดงออกอย่างไรล่ะ

ก็ความอยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น ของเรานั่นล่ะ


การปล่อยวางโลกธรรมไม่ใช่การที่เราจะหนี หรือไม่ใช้โลกธรรมเลย

แต่หมายถึงการเข้าใจความจริงของโลกธรรมจนใจมันยอมรับและไม่ยึดติดใดๆในโลกธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเอาไว้หรือผลักไส

แล้วหลังจากนั้น เราจะมีอิสระในการที่จะเลือกใช้เลือกปรุงอย่างไรก็ได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป
โดยภายในไม่ยึดติดอะไรทั้งสิ้นแม้ประโยชน์นั้นด้วย

ซึ่งแน่นอน มันย่อมไม่มีตัณหาความอยากได้ ดี มี เป็นอะไรอีก ผลักไสอยู่ภายใน

นี่ล่ะตัณหามันดับ เพราะสิ้นอวิชชา ซึ่งคือความเป็นกลางอันนอกเหนือการปรุงแต่งทั้งปวง

อย่าลืมสิว่า ที่สุดแล้วคือการนอกเหนือ นอกเหนือคืออิสระ อิสระคือความเป็นหนึ่ง ความเป็นหนึ่งจึงไม่มีการเอาไว้หรือผลักไสปฏิเสธ

 

เจริญธรรม

อาจารย์หมอ

Comments are closed.